รับสมัครงาน

century 21 property aims thailand

Banner

960x300

Banner

960x300

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รีวิวคอนโด แอสปาย เอราวัณ (Aspire Erawan by AP )

รีวิวคอนโด  Aspire Erawan คอนโดเปิดใหม่ ติดสถานี BTS เอราวัณ

 Aspire Erawan
ลักษณะโครงการ คอนโดมิเนียม ความสูง 31 ชั้น 1 อาคาร ที่ตั้งโครงการ ถนนสุขุมวิม อยู่ติดกับ BTS  ส่วนต่อขยาย สถานีเอราวัณ   แต่ตัวอาคารจะอยู่ลึกเข้าไปอีกประมาณ 160 ม. จากทางเข้าหน้าโครงการ

แบบห้องพัก
สตูดิโอ ขนาด 25.5 ตรม.
1 ห้องนอน ขนาด  29.5 - 30 ตรม. 
1 ห้องนอน พลัส ขนาด  35 ตรม.
2 ห้องนอน ขนาด 47 ตรม.

สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ ยาว 31 ม.   ฟิตเนส  และห้องสตรีม  บนชั้น 5 - Sky High Garden  บนชั้น 31  ขมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
- ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว และลิฟท์ขนของ 2 ตัว
- รปภ. 24 ชม. ระบบ CCTV และ Key Card Access

ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

เจ้าของโครงการ เอพี  ( AP )

ลงทะเบียนรับสิทธพิเศษ  http://www.apthai.com

จุดเด่นโครงการ
โครงการอยู่ติด BTS เอราวัณ  เพียง 1 ก้าว   สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า  แต่ก็มีระยะเดินจากหน้าทางเข้าโตรงการ ถึงตัวอาคาร ประมาณ 160 ม.  
ส่วนที่ดินที่อยู่ติดถนนใหญ่จะมีทำเป็นโครงการในอนาคต  ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีมากมาย แต่ที่สำคัญ  ก็คือ Sky High Garden บนชั้น 31  เพราะสามารถขมวิวโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา  และอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ คือ  ห้องแบบ 1 Bed Plus ที่มีพื้นที่ขนาด 35 ตร.ม.   ที่สามารถทำเป็น 1 ห้องนอน และ 1ห้องอเนกประสงค์  หรือจะปรับเป็น 2 ห้องนอนก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของห้องเลย






วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โฉมใหม่ แฟลตดินแดง ตึกสูง 25 ชั้นคนจนผ่อนได้



ภารกิจเร่งด่วนของ "พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว" เจ้ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นอกจากจะจัดหาบ้านราคาถูกมารองรับผู้มีรายได้น้อย ที่แปลงโฉมจาก "บ้านเอื้ออาทร" มาเป็น "บ้านยั่งยืน" เปิดจองใหม่ในราคาไม่เกิน 5 แสนบาท ตามนโยบายบิ๊กตู่แล้ว

อีกเผือกร้อนจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใต้รัฐบาลชุดนี้คือ การพัฒนาโครงการแฟลตดินแดง ที่สร้างกันมานานตั้งแต่ 2506 ให้มีสภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลังยืดเยื้อกันมานานหลายปี จะทุบทิ้ง-ไม่ทุบทิ้ง เพราะมีทั้งคนคัดค้านและเห็นด้วยกับโปรเจ็กต์ใหม่ที่ "กคช.-การเคหะแห่งชาติ" ออกแบบก่อสร้าง 

"เราพร้อมรับฟังปัญหาของผู้อยู่อาศัย ถ้ายังมีคนคัดค้าน เราจะต้องทำความเข้าใจ นโยบายคือให้การเคหะฯเดินหน้าโครงการไปตามแผน ยังไงโครงการนี้จะต้องทำให้ได้ภายในรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน" พล.ต.อ.อดุลย์ย้ำเสียงหนักแน่น 

สำหรับสถานะโครงการล่าสุด "เจ้ากระทรวง พม." กล่าวว่า ขณะนี้การเคหะฯได้ออกแบบโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในเร็ว ๆ นี้จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่ออนุมัติแผนงานก่อสร้างและงบประมาณที่จะมาดำเนินการจะมาจากไหนได้บ้าง ซึ่งการพัฒนาโครงการจะต้องทำตามขั้นตอนให้ถูกต้อง 

ตามมาสเตอร์แพลนที่การเคหะฯวางไว้จะใช้เวลาพัฒนาประมาณ 8 ปี เริ่มต้นปี 2559 เป็นต้นไป จะเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นหลัก เป็นอาคารสูง 25 ชั้น และ 35 ชั้น จะไม่มีศูนย์การค้าหรือพัฒนาเชิงพาณิชย์รูปแบบอื่นแต่อย่างใด 

"เรื่องแฟลตดินแดงก็เป็นเรื่องของคนดินแดง ที่อยู่อาศัยที่จะพัฒนาจะมีรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมก่อนเป็นลำดับแรก ประมาณ 6,000 ยูนิต จากทั้งหมด 20,292 ยูนิต เพราะจะสร้างเพื่อให้กลุ่มผู้อยู่อาศัยรายใหม่ด้วย นอกจากผู้มีสิทธิ์เดิมอยู่แล้ว"

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า โดยปี 2559 การเคหะฯจะสร้างตึกใหม่สูง 25 ชั้น จำนวน 334 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร บริเวณหัวมุมสามเหลี่ยมดินแดง พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ที่สามารถสร้างได้ทันทีหากได้รับการอนุมัติจาก ครม. เพื่อมารองรับผู้อยู่อาศัยเดิม จำนวน 5 อาคาร คืออาคาร 18-20 และอาคาร 21-22 

"หลักการของเราคือ จะสร้างตึกใหม่ให้อยู่ก่อน แล้วค่อยไล่รื้อหรือทุบไปทีละอาคาร เพื่อลดผลกระทบของผู้อาศัยไม่ให้มีความเดือดร้อนหาที่อยู่อาศัยใหม่"

สำหรับอัตราค่าเช่าภายใต้โครงการใหม่นี้ "พล.ต.อ.อดุลย์" กล่าวย้ำว่า ถ้าเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิมจะคิดค่าเช่าในราคา 1,000 บาท /เดือน/ห้อง จากปัจจุบันเช่าอยู่ในราคา 300 บาท/เดือน/ห้อง หรือหากเช่าอยู่ 600 บาท/เดือน/ห้อง จะเป็นราคา 1,500 บาท/เดือน/ห้อง ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นผลดีทั้ง 2 ฝ่าย 

ขณะที่โครงการสร้างคอนโดฯราคาถูกแนวรถไฟฟ้า "พล.ต.อ.อดุลย์" กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งให้การเคหะฯนำเสนอโครงการ เพราะเป็นนโยบายเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) แต่โครงการไหนที่ทำได้ก่อน เช่น โครงการบ้านยั่งยืน ก็อาจจะมีเฟสต่อไปในอนาคต ให้การเคหะฯไปพิจารณาพื้นที่โครงการที่จะมาพัฒนา ซึ่งราคาจะพยายามไม่ให้เกินยูนิตละ 500,000-600,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลและต้นทุนด้วย 

"อะไรที่เป็นนโยบาย เราจะเร่งให้เห็นเป็นรูปธรรมในปีหน้า อะไรที่เรามีของเดิมอยู่แล้ว ก็เร่งผลักดันตรงนี้ไปก่อน โครงการใหม่ก็ต้องทำต่อไป เน้นผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก และยังมีโครงการเช่าที่อยู่แนวรถไฟและรถไฟฟ้าด้วยอีก 1 หมื่นยูนิต ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี เพราะจากผลการศึกษาปีི มีผู้มีรายได้ประมาณ 4 ล้านคนที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย"

เช่นเดียวกับโครงการสร้างแฟลตให้เช่าใน 6 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ จ.ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร สงขลา และหนองคายที่ พล.ต.อ.อดุลย์ย้ำว่า ต้องรอผลการศึกษาโครงการ ที่ดิน รูปแบบ เงินลงทุน สิ่งแวดล้อม ต้องใช้เวลา แต่จะได้เห็นแน่ ๆ ในปีหน้า พ่วงด้วยโครงการที่อยู่อาศัยให้เช่าอีกประมาณ 10,000 ยูนิตที่กำลังรอเข้า ครม.ในเร็ว ๆ นี้ 

หาก "ครม." ไฟเขียว ทุกโครงการ จะเริ่มปักหมุดปี 2559

ที่มา :  ประชาชาติธุรกิจ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เสร็จแล้วศึกษาสายม่วงใต้ เตาปูนไปราษฎร์บูรณะ-รฟม.เตรียมส่งคมนาคมเสนอ ครม.

ผลศึกษา รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เสร็จแล้ว รฟม.ส่งคมนาคม เสนอ ครม. อนุมัติ คาดประมูลต้นปี 59



เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2558 นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร ว่า ขณะนี้ที่ปรึกษาโครงการได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว รฟม.ได้มีการสรุปและเสนอรายละเอียด ผลการรับฟังความคิดเห็น ผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อส่งไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบอนุมัติโครงการ ทั้งนี้คาดว่า จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในเร็วๆนี้ หลังจาก ครม.อนุมัติแล้วขั้นตอนต่อไป รฟม.จะจัดทำเอกสารการประกวดราคาและรายละเอียดในการร่างขอบเขตการทำงาน ซึ่งคาดว่าประมาณต้นปี 2559 จะสามารถเปิดประกวดราคาสายสีม่วงใต้ได้ ทั้งนี้จากผลการรับฟังความคิดเห็นพบว่ามีประชาชนบางกลุ่มยังคัดค้านการก่อสร้าง รฟม.ก็จะต้องเร่งหาวิธีการเจรจาและการเยียวยาเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุดเพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เริ่มจาก จุดเชื่อมต่อสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่สถานีเตาปูน เป็นโครงสร้างลอยฟ้าก่อนเปลี่ยนระดับเป็นใต้ดินเข้าถนนสามเสนผ่านรัฐสภาแห่งใหม่ โรงเรียนราชินีบน กรมชลประทาน โรงพยาบาลวชิระ หอสมุดแห่งชาติ คลองบางลำพู เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระสุเมรุ ผ่านวัดบวรนิเวศวิหาร แยก ผ่านฟ้า ถนนราชดำเนินกลาง ถนนมหาไชย วัดราชนัดดา ถนนจักรเพชร ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระปกเกล้าเข้าถนนประชาธิปก สี่แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แยกมไหสวรรย์ ถนนสุขสวัสดิ์ จากนั้นยกระดับผ่านแยกจอมทอง แยกประชาอุทิศ ข้ามทางด่วนเฉลิมมหานคร ถนนราษฎร์บูรณะ สิ้นสุดที่เส้นทางบริเวณครุใน โดยจะเป็นโครงสร้างใต้ดิน 12.6 กม. ยกระดับ 7.8 กม. มี 17 สถานี แบ่งเป็นใต้ดิน 10 สถานี ยกระดับ 7 สถานี มีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่งที่วงแหวนอุตสาหกรรมและมีอาคารจอดรถ 2 แห่งบริเวณสถานีราษฎร์บูรณะและศูนย์ซ่อมบำรุง.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์


วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

BTS เตรียมพัฒนาที่ดินกม. 11เสนอไอเดียพัฒนาคอนโดให้มนุษย์เงินเดือน

บีทีเอสตื๊อขอลงทุนก่อสร้างทางคู่แสนล้าน “ขอนแก่น-มาบตาพุด” พ่วงสัมปทานเดินรถ 50 ปี ทุ่มหมื่นล้านผุดคอนโดฯ สวัสดิการพนักงานรถไฟ 5 พันยูนิต แลกสิทธิ์เช่ายาวที่ดิน 359 ไร่ ย่าน กม.11 ลุยคอนโดปล่อยเช่า พื้นที่ใช้สอย 42-56 ตร.ม. อีก 5 พันยูนิต เนรมิตศูนย์การค้า โรงพยาบาล สวนรับรถไฟสีแดง “บางซื่อ-รังสิต เล็งสร้างโมโนเรลเชื่อมบางซื่อทะลุจตุจักร ด้าน “ประจิน” รื้อแผนพัฒนาที่ดินรถไฟ
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเตรียมระดมทุนจากเงินกองทุนโครงสร้างพื้นฐานบีทีเอส 3 หมื่นล้านบาท และกระแสเงินสด 2 หมื่นล้านบาท เพื่อลงทุนก่อสร้างและรับสัมปทานเดินรถโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-มาบตาพุด ระยะทางกว่า 500 กม. คาดว่าลงทุน 1.1 แสนล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้าง 7 หมื่นล้านบาท อีก 3 หมื่นล้านบาท เป็นงานระบบเดินรถ คืบหน้าล่าสุดอยู่ระหว่างหารือกระทรวงคมนาคมถึงรูปแบบการร่วมลงทุน

14361083681436109183l

ผุดเมืองใหม่ย่าน กม.11
ขณะเดียวกัน บริษัทสนใจพัฒนาที่ดิน 359 ไร่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริเวณ กม.11 โดยเสนอแนวคิดเบื้องต้นให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาแล้ว และมีกำหนดหารือครั้งต่อไปภายในกลาง ก.ค.นี้ เกี่ยวกับระยะเวลาการเช่าและผลตอบแทน
เสนอพัฒนาโครงการเมืองใหม่ ใกล้สถานีกลางบางซื่อ ในแนวรถไฟสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่กำลังก่อสร้าง รูปแบบเป็นคอนโดมิเนียม 10 อาคาร ประมาณ 1 หมื่นยูนิต สำหรับเป็นสวัสดิการพนักงานรถไฟ 5พันยูนิต และให้คนทั่วไปที่เป็นมนุษย์เงินเดือนเช่าระยะยาว 10-30 ปี ยังมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การค้า โรงพยาบาล
นายคีรีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้บริษัทสนใจลงทุนสร้างระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) เชื่อมการเดินทางรอบ กม.11 และพื้นที่ใกล้เคียง มีอยู่ในแผนการพัฒนาของการรถไฟฯ โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ประจินรื้อโมเดลที่ดินรถไฟ
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้แผนพัฒนาที่ดินการรถไฟฯแปลงใหญ่ 2 แปลง มีความชัดเจนถึงคอนเซ็ปต์การพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เน้นเรื่องเชิงสังคมมากขึ้น คือ ย่านมักกะสัน 497 ไร่ เน้นพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวหรือปอดคนกรุงเทพฯ 150 ไร่ เชิงพาณิชย์ 140 ไร่ เช่นเดียวกับที่ดินย่าน กม.11 ให้ความสำคัญการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นสวัสดิการพนักงานรถไฟ 8-8.5 พันครอบครัว แยกเป็นที่อยู่บริเวณ กม.11 ประมาณ 5-6 พันครอบครัว และย้ายมาจากย่านมักกะสันอีก 2 พันครอบครัว รวมถึงที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้ปานกลาง สวนสีเขียว สันทนาการและพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม ร้านค้า เป็นต้น จากเดิมรถไฟออกแบบเน้นพัฒนาเชิงพาณิชย์ 100% ซึ่งที่ดินแปลงนี้ทางบีทีเอสสนใจพัฒนา ส่วนที่ดินสถานีแม่น้ำ 277 ไร่ยังไม่สรุปจะพัฒนาเชิงพาณิชย์ตามที่การรถไฟฯออกแบบไว้หรือเน้นการพัฒนา เชิงสาธารณะ ขอดูรูปแบบที่รถไฟศึกษาโครงการไว้ก่อน
คอนโดบีทีเอส 42-56 ตร.ม.
ทั้งนี้ มีกำหนดนัดบีทีเอสกรุ๊ปมาหารือภายในกลาง ก.ค.นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยบริษัทเสนอพัฒนา 5 ส่วน คือ 1.สร้างคอนโดมิเนียม 5,000 ยูนิต รองรับพนักงานการรถไฟฯ 5,000 ครัวเรือน ออกแบบห้องชุด 2 ไซซ์ 42 และ 56 ตารางเมตร โดยบริษัทจะสร้างให้ฟรี เพื่อแลกเปลี่ยนกับการพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เหลือ 2.พื้นที่ค้าขายสำหรับผู้ประกอบการที่ค้าขายบริเวณ กม.11 เดิม 3.สวนสาธารณะ 4.สร้างคอนโดฯ ให้เช่าสำหรับผู้มีรายได้ปานกลาง และ 5.พื้นที่เชิงพาณิชย์
นอกจากนี้มีการหารือแผนลงทุนระบบเดินรถสินค้า รถไฟทางคู่ ขนาดราง 1 เมตร เส้นทางขอนแก่น-มาบตาพุด ระยะทาง 500 กม. รวมถึงผลตอบแทนที่บริษัทจะแบ่งสัดส่วนรายได้ให้กับการรถไฟฯ คาดว่าจะเป็นการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชนรูปแบบ PPP ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556
บริษัทเสนอการเดินรถรูปแบบใหม่เป็นหัวรถจักรไฟฟ้า ก็ตรงกับนโยบายจะเปลี่ยนการใช้รถจักรดีเซลเป็นไฟฟ้า จึงให้บริษัทไปทำรายละเอียดการจัดสรรพลังงานไฟฟ้าที่จะป้อนเข้าไปในระบบด้วย โครงการนี้อาจจะยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้
คีรีขอสัมปทานทางคู่ 50 ปี
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟฯกล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการเป็นการลงทุนรูปแบบPPP โดยการเดินรถด้วยหัวรถจักรไฟฟ้าถือว่าเป็นโครงการที่ดี ทางบีทีเอสเสนอขอรับสัมปทาน 50 ปี ส่วนการพัฒนาที่ดินย่าน กม.11 บริษัทเป็นผู้ลงทุน 1 หมื่นล้านบาทสร้างคอนโดฯ รองรับพนักงานรถไฟ ทั้งย่าน กม.11 และมักกะสัน ที่มีแผนจะย้ายจะเป็นลักษณะชุมชนรถไฟ ส่วนพื้นที่ 100 ไร่ที่เหลือเป็นสวนสาธารณะ และพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 100 ไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถไฟทางคู่ที่บีทีเอสสนใจเป็นโครงการที่กำลังจะเปิดประมูลปีนี้ ค่าก่อสร้างรวม 67,210 ล้านบาท ได้แก่ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. 11,348 ล้านบาท, มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 172 กม. 29,855 ล้านบาทและจิระ-ขอนแก่น 185 กม. 26,007 ล้านบาท รวมถึงช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง 78 กม. 

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558


ประเภทของ Wallpaper

วอลเปเปอร์ แบ่งออกเป็น 6 ชนิดตาม วัสดุที่นำมาทำวอลเปเปอร์ ดังนี้
1. วอลเปเปอร์กระดาษ ทำจากกระดาษมีเนื้อหนาน้อยกว่าวอลเปเปอร์ชนิดอื่นๆ ติดง่าย สะดวก มีลวดลายและสีสันให้เลือกเยอะ แต่มีปัญหาในการทำความสะอาด เพราะกระดาษซับน้ำได้ง่าย จึงควรเลือกแบบที่เคลือบไวนิลด้วย เพื่อให้ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซับน้ำ
2. วอลเปเปอร์ผ้า ทำจากผ้าซึ่งจะให้ความรู้สึกและผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม  เวลาสัมผัสรู้สึกถึงความละเอียดของเนื้อผ้า  เหมาะกับห้องที่ไม่พลุกพล่าน อาจเป็นผ้าไหม ผ้าลินิน หรืออื่นๆ เคลือบอยู่บนชั้นกระดาษ วอลเปเปอร์ผ้าใช้ได้ดีกับผนังห้องที่มีผิวไม่เรียบ แต่จะมีราคาแพงและทำความสะอาดยาก  แต่จะมีความคงทนสูงไม่ฉีกขาดง่าย
3. วอลเปเปอร์ไวนิล ( vinyl wallpaper )  เป็นชนิดที่นิยมใช้มากที่สุด  สามารถสร้างลวดลาย หรือสามารถกำหนดควาทมลึก ตื้นของลายได้  และที่สำคัญจะไม่มีปัญหาเรื่องความเปียกชื้น คราบน้ำมัน และคราบฝุ่นเกาะ และทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่เช็ด คราบเลอะๆก็จะหมดไป นอกจากนี้ไวนิลยังมีความทนทาน จึงเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้งานมาก
4. วอลเปเปอร์แผ่นฟอยล์ ทำจากฟอยล์มีลักษณะเป็นมันเงา วอลเปเปอร์ชนิดนี้จึงให้อารมณ์หรูหรา เหมาะกับพื้นที่เล็ก ๆ เพราะมีราคาแพง ไม่ทนทาน และติดยาก
5. วอลเปเปอร์เส้นใยสังเคราะห์  (non-woven wallpaper) มีลักษณะคล้ายผ้า มีความทนทานสูง มีความเหนียวฉีกขาดยาก ติดง่าย และสามารถลอกออก ได้  สามารถใช้ได้กับผนังและเพดาน มีส่วนช่วยป้องกันความร้อน   แต่ไม่ควรติดในห้องน้ำและห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่มีความชื้นสูง อาจทำให้วอลเปเปอร์หลุดร่อนหรือขึ้นราได้
6. วอลเปเปอร์เนื้อโฟม เนื้อวอลเปเปอร์จะหนาและมีลายนูนออกมา ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มเวลาสัมผัส นิยมใช้ติดเพดานเพราะจะช่วยเก็บรอยต่อ หรือรอยฉาบที่ไม่เรียบ   และยังมีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียงในระดับนึง

วิธีการเลือกวอลเปเปอร์

หลังจากรู้จักกับประเภทของวอลเปเปอร์ ต่างๆกันแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเลือก สีและลวดลายเนื่องจากการตกแต่งบ้านด้วยวอลเปเปอร์ อาจทำห้องเล็กให้ดูกว้างขึ้น ห้องใหญ่ให้ดูแคบลง หรือ ทำให้ห้องดูสว่างขึ้นได้ มาเริ่มกันเลยกับเกร็ดความรู้เรื่องการเลือกสีและลวดลายของวอลเปเปอร์ให้เหมาะกับห้องแต่ละห้อง
1. การเลือกโทนสีของวอลเปเปอร์ ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง  โทนสีเข้มจะทำให้รู้สึกว่าห้องมีขนาดเล็กกว่าปกติ  โทนสีอ่อนจะทำให้รู้สึกว่าห้องมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ดังนั้นห้องที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถเลือกได้ทั้งสีเข้ม และสีอ่อน  หรือจะใช้ทั้งสองสี โดยเลือกสีเข้มเป็นบางด้านของผนังเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับผนังด้านนั้น  ส่วนห้องที่มีขนาดเล็กก็ควรเลือกโทนสีที่สว่างห้องจะได้ดูไม่อึดอัด
2. เลือกขนาดของลายให้มีความเหมาะสมกับขนาดของห้องหากเป็นห้องเล็กๆไม่ควรเลือกลายที่ใหญ่เกินไปเพราะให้รู้สึกอึดอัด 
ห้องมีแสงสว่างมากควรหลีกเลี่ยงวอลเปเปอร์ที่มีสีสันลวดลายเรียบหรือสีอ่อนมาก เพราะจะทำให้มองเห็นลาย หรือโทนสีไม่ชัด
3. ส่วนห้องเด็กควรเลือกชนิดที่เป็นกระดาษที่เคลือบผิวด้วยพี.วี.ซี. เพราะว่าจะมีความคงทน และมีลวดลายให้เลือกหลากหลายแบบเพื่อเสริมสร้างการจินตนาการของเด็กๆ  และที่สำคัญจะทำความสะอาดได้ง่ายจากร่องรอยการขีดเขียน 
4. การเลือกวอลเปเปอร์ของแต่ละห้องหากเลือกให้แตกต่างกันหรือต่างสไตล์ก็ไม่ผิด แต่กลับทำให้บ้านไม่หน้าเบื่ออีกด้วย แค่ข้อควรระวังคือ ไม่ให้ลายวอลเปเปอร์โดดเด่นไม่เข้ากับสไตล์เฟอร์นิเจอร์ หรือลายของหน้าต่างในแต่ละห้องก็พอ
5. อายุการใช้งานของวอลเปเปอร์ จะอยู่ประมาณ 7-15  ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุของวอลเปเปอร์  และการดูแลรักษา

การดูแลและทำความสะอาดวอลเปเปอร์

1.หมั่นทำความสะอาดบริเวณผิวหน้าของวอลล์เปเปอร์โดยใช้แปรงขนไก่ปัดฝุ่น
2. ถ้าบริเวณขอบริมผนังวอลล์เปเปอร์หลุดร่อน ให้ใช้กาวลาเท็กซ์ทาที่ผนังแล้วกดวอลล์เปเปอร์ให้แนบสนิทกับผนัง ส่วนที่มีกาวเลอะออกมาใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาด ใช้ผ้าแห้งที่สะอาดเช็ดอีกครั้ง
3.หากวอลล์เปเปอร์ฉีกขาด รือเป็นรอยชำรุดได้ สามารถซ่อมแซมด้วยเศษวอลล์ที่เหลือมาซ่อมปิดบริเวณที่ชำรุด เพื่อหยุดรอยชำรุดไม่ให้ขยายวงกว้างขึ้น พราะฉะนั้นเเศษวอล์เปเปอร์ที่เหลือเวลาติดกรุณาเก็บไว้อย่าทิ้ง 4.วอลปเปอร์แบบที่ล้างไม่ได้ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเฉพาะซึ่งหาซื้อได้จากร้านขายวอลเปเปอร์ เลือกน้ำยาที่ใช้สารที่เหมาะสมกับพื้นผิววอลเปเปอร์ แต่ควรทดสอบก่อนการใช้ทำความสะอาดจริง โดยให้ลบรอยเปื้อนออกตามทิศทางเดียวกับการติดวอลเปเปอร์ 5.วอลเปเปอร์แบบที่ล้างได้ให้ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำยาล้างผนังหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ ที่รอยเปื้อน แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มเช็ดซ้ำอีกครั้งก่อนจะปล่อยให้ผนังแห้งสนิท 6.หลีกเลี่ยงอย่าให้วอลเปเปอร์โดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ เพราะจะทำให้สีของวอลเปเปอร์ซีดจางได้ และควรป้องกันอย่าให้เกิดความชื้นเป็นเวลานานเพราะอาจเกิดเชื้อราขึ้นได้